วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กลุ่มก่อการร้ายใน จชต.บิดเบือนหลักการญิฮาดในอิสลาม




      เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นใน จชต.เกิดจากกลุ่มก่อการร้ายเชื้อสายมลายูที่มีเป้าหมายแบ่งแยกดินแดนปัตตานีเป็นเอกราชจากสยาม โดยถือว่าดินแดนแห่งนี้เป็น ดินแดนปัตตานีดารุสซาราม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบอิสลามนั้นเอง ดังนั้น จึงเห็นความพยายามการนำหลักความเชื่อของศาสนามากล่าวอ้างว่าเพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการต่อสู้กับสยาม โดยทำให้ชาวโลกเห็นว่าชาวมาลายู ปาตานี ถูกสยามกดขี่ จึงจำเป็นต้องต่อสู้กับผู้กดขี่ ซึ่งหากดูอย่างผิวเผินจะเห็นว่า กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ ได้กระทำตามหลักศาสนาอิสลาม ตามหลักการญิฮาด ที่ให้สิทธิอันชอบธรรมแก่ผู้เป็นมุสลิมในการตอบโต้ผู้รุกรานจากสยามได้

        หากแต่เมื่อพิจาณาอย่างถี่ถ้วน เราจะเห็นว่าการก่อเหตุร้ายใน จชต ผิดหลักการของญิฮาดของศาสนาอิสลามมาโดยตลอด เพราะตั้งแต่เริ่มแรกนั้น หลักของการญิฮาด ต้องมีผู้นำประกาศเสียก่อน ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเราไม่เห็นผู้นำคนใดประกาศการจีฮาดแต่อย่างใด ต่อมาการญิฮาดต้องเกิดจากการละเมิดศาสนา ซึ่งเราจะเห็นว่าทางการสยามไม่ได้ละเมิดในศาสนาอิสลาม ทุกวันนี้ชาวมุสลิมสามารถ ดำรงชีวิตตามความเชื่อของอิสลามได้อย่างเสรี มีมัสยิด คลุมญิฮาบ และมีกิจกรรมทางศาสนาอย่างมากมายที่เราจะสามารถเห็นได้ ในทุกแห่งทุกหนที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ 

        ขณะที่การญิฮาดนั้น ไม่ได้หมายถึงการต่อสู้ทางกำลังเพียงอย่างเดียว แต่อย่างแรกหมายถึงการต่อสู้กับกิเลส จิตใจของตนเอง เสียก่อน จึงจะต่อสู้ทางกำลังกับศัตรู แต่ดูเหมือนว่า กลุ่มคนที่มีแนวคิดรุนแรง สุดโต่ง มักจะอ้างว่าถูกกดขี่จากสยามเพียงประการเดียว เพื่อความชอบธรรมในการใช้อาวุธเพื่อทำลายล้างชีวิต และทรัพย์สิน อย่างไม่อาจประเมินความเสียหายได้ ขณะที่หลักการญิฮาดอีกข้อกล่าวห้าม ไม่ให้กระทำต่อ คนชรา เด็กตัวเล็ก ผู้หญิง คนเป็นเจ้าของกุฎิอาศรม แต่จากเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา เป็นสิ่งพิสูจน์ว่ากลุ่มก่อการร้ายเชื้อสายมลายูกระทำสวนทางกับหลักการ ญิฮาดโดยสิ้นเชิง

ที่มา   มุดิน        อ้างอิงแหล่งที่มาของการญิฮาด http://www.youtube.com/watch?v=_RPgA6SwE0A&feature=related

------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น